26 มี.ค. 2553

การนวด เพื่อฟื้นฟูเส้นผม




การนวด เพื่อฟื้นฟูเส้นผม
การนวดเพื่อฟูสภาพเส้นผมแก้ปัญหาผมร่วง/ศีรษะล้าน
การที่เลือดสามารถไหลเวียนได้อย่างสะดวกมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของหนังศีรษะ ดังนั้น การนวดเฟ้นเพื่อผ่อนคลายความเครียดในส่วนนี้จึงมีประโยชน์ เป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยได้ค่อนข้างดีมากปัจจัยหนึ่งการนวดศีรษะก็เช่นเดียวกัน สามารถใช้ฝ่านิ้วนดคลึงหนังศีรษะเบาๆ นวดให้ทั่วบริเวณนวดจนรู้สึกว่าความเครียดบนหนังศีรษะเริ่มคลาย จึงใช้ปลายนิ้วนวดคลึงบริเวณที่เป็นกล้ามเนื้อ แล้วใช้นิ้วมือเสยจับปลายด้านล่างสุดของเส้นผม ให้ชิดหนังศีรษะให้มากที่สุด จับให้แน่น จากนั้นก็ดึงเบาๆไปทางด้านหลังและดึงกลับมาทางด้านหน้า รวมทั้งดึงขึ้นดึงลงเบาๆเช่นกัน เมื่อทำซ้ำๆหลายครั้ง ความเครียดของกล้ามเนื้อจะผ่อนคลายสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การบริหารหนังศีรษะในลักษณะนี้ไม่ควรทำอย่างหักโหมมากเกินไป ทำเพียงยี่สิบถึงสามสิบวินาทีก็มากเกินพอแล้ว อย่าลืมว่าเพียงต้องการให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหนังศีรษะเท่านั้น ไม่ใช่กล้ามเนื้อ
สารอาหารในกระแสเลือดไม่เพียงพอ
องค์ประกอบส่วนใหญ่ของเส้นผมแต่ละเส้นได้แก่กรดอามิโน (โปรตีน) ด้วยเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องเพิ่มสารอาหารประเภทโปรตีนในอาหารที่รับประทานเป็นประจำวัน ร่างกายของเราต้องการโปรตีนไม่เกินสองออนซ์ต่อวัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องดูส่วนประกอบของสารอาหารในแต่ละวันที่เรารับประทานด้วย
การฟื้นฟูสะสมให้เลือดไปหล่อเลี้ยงรากผมเป็นปัจจัยสำคัญ แต่การเพิ่มปริมาณสารอาหารที่ทรงคุณประโยชน์ที่สุดให้กับกระแสเลือดก็เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งเช่นกัน จุดประสงค์ของโปรแกรมหรือขั้นตอนการปลูกผมนี้คือ กระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของกระแสเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงรากผม กระตุ้นให้เส้นผมเจริญเติบโต ซึ่งเป็นวิธีที่สร้างขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาหลอดเลือดบีบตัว (ตีบตัน) อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เลือดไม่อาจเดินทางไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ อย่างไรก็ตามสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งถูกส่งผ่านไปทางกระแสเลือดต้องมีเพียงพออีกโสดหนึ่ง ถึงจะประสบความสำเร็จได้เร็วและอย่างถาวร เพราะเมื่อถึงเวลานั้น กายบริหารด้วยวิธีพลิกตัวกลับหัวก็หมดความจำเป็น



เนื่องจากการบริหารท่านี้เป็นท่าที่ช่วยแก้ปัญหาหลอดเลือดตีบในระยะสั้นเท่านั้น แม้มีผลดีมากก็จริงแต่ไม่ควรหักโหมโดยมองข้ามข้อเท็จจริงทางธรรมชาติ (ระบบการทำงานของร่างกาย) ซึ่ง วิธีนำเลือดไปหล่อเลี้ยงรากผมด้วยการกลับหัวเป็นวิธีที่ช่วยให้รากผมเจริญเติบโตอย่างได้ผล การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวนั้น ต้องใช้วิธีเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ รู้จักสกัดกั้นไม่ให้ความเครียดมีอยู่ในตัวมากและนานเกินเหตุ เพราะเมื่อสามารถเปิดทางเดินหลอดเลือดที่ตีบตันออกได้แล้ว เลือดก็สามารถเดินทางไปหล่อเลี้ยงรากผมได้เองตามธรรมชาติ
แต่ทั้งนี้ต้องหมายความด้วยว่าในกระแสเลือดต้องมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม รวมทั้งต้องไม่ให้ความเครียดย้อนรอยกลับมาเป็นสาเหตุสำคัญอีก
ระบบระบายน้ำเหลือง
ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า เลือดจะเดินทางไปทั่งร่างกายโดยผ่านไปตามหลอดเลือด และผนังหลอดเลือดแดงฝอยก็มีลักษณะกึ่งให้ของเหลวซึมผ่านออกไปได้
ด้วยเหตุนี้ ของเหลวที่มีลักษณะคล้ายพลาสม่า (ส่วนที่เป็นน้ำของเลือด)จะซึมผ่านผนังหลอดเลือดแดงฝอย แล้วกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่างๆ เพื่อนำอาหาร ออกซิเจนและน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์เนื้อเยื่อที่มีชีวิตทั่วร่างกาย นอกจากนี้ ยังเป็นตัวนำของเสียที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของเซลล์เนื้อเยื่อดังกล่าวไปสู่หลอดเลือดดำหรือระบบน้ำเหลือง
หลอดเลือดดำมีปั๊มเช่นเดียวกับหัวใจที่มีปั๊มเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างการทั้งระบบ แต่ระบบน้ำเหลืองไม่มีปั๊มจึงต้องอาศัยเดินทางผ่านหลอดน้ำเหลือง และหลอดน้ำเหลืองที่เล็กสุดจะเลาะผ่านไปตามเนื้อเยื่อในลักษณะกระจายไปทั่วบริเวณ เหมือนธารน้ำ และไปประจบกับท่อทางเดินที่ขนาดใหญ่กว่าทั่วทั้งระบบ น้ำเหลืองเหล่านี้เดินทางผ่านหลอดน้ำเหลืองได้วิธีเดียว นั่นคือแรงดึงดูดของโลกหรือผ่านโดยการบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อ อย่างใดอย่างหนึ่ง
เมื่อกล้ามเนื้อบีบรัดตัวก็จะเกิดแรงกดดันตรงผนังด้านนอกของท่อทางเดิน ดันให้ของเหลวที่อยู่ด้านในไหลผ่าน ครั้นเมื่อดันผ่านไปแล้ว ลิ้นหรือวาล์วด้านในก็จะปิดลง กันไม่ให้ของเหลวไหลย้อนกลับเข้ามา ด้วยเหตุนี้ หากปรากฎว่ากล้ามเนื้อหนังศีรษะบีบตัวแน่นเพราะความเครียด น้ำเหลืองที่เป็นตัวนำของเสียออกจากระบบก็จะถูกปิด
และถ้าถูกปิดอยู่นานเกินไป สารพิษก็จะสั่งสมเพิ่มปริมาณมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เมื่อมีมากขึ้น มากขึ้น มันจะส่งผลกระทบทำให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้นจนมีลักษณะหยาบกระด้าง ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้เส้นผมหลุดร่วงและล้านเลี่ยนในที่สุดสำหรับตำแหน่งที่ล้านเลี่ยนเตียนโล่งนั้นเป็นตำแหน่งที่ผิวหนังมีอาการแฟบ ขาดความชุ่มชื้น และเมื่อปล่อยให้นานวันออกไป ผิวที่ค่อนข้างหยาบอยู่แล้วจะค่อยๆ หยาบกระด้างมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งในที่สุดก็หยาบเหมือนแผ่นไม้ คือแข็งกระด้างจนกดไม่ลง
เมื่อเริ่มโครงการฟื้นฟูสภาพเส้นผม ผิวที่เคยหยาบจะค่อยๆ มีความสดชื่น มีความชุ่มชื่นเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ และในที่สุดก็คืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวบริเวณดังกล่าว แน่นอน เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน หากแต่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานเป็นเดือนๆ
ทั้งนี้เพราะใยประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อหนังศีรษะเป็นใยประสาทที่ควบคุมกรามและใบหน้าด้วย นั่นหมายความว่าความหยาบกระด้างของหนังศีรษะก็สามารถเกิดขึ้นได้กับใบหน้าได้เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากใบหน้าที่มีอาการเกร็ง มีเส้นเลือดปรากฎบนหน้าผากหรือเส้นที่ดูหยาบกระด้างใต้ขอบตาทั้งสองข้าง
ผู้ที่ปฏิบัติตามโปรแกรมเป็นระยะเวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นจะสัมผัสกับตัวเองได้ว่าบริเวณที่หยาบกระด้างดังกล่าวเหล่านี้จะอ่อนตัวลง กล้ามเนื้อผ่อนคลายจนสามารถเคลื่อนไหวได้  สรุปได้ว่า มีความชุ่มชื้นมากขึ้น กล้ามเนื้อมีการพัฒนามากขึ้นและแข็งแรงขึ้น แข็งแรงจนบางครั้งสามารถฟื้นฟูสภาพใบหน้าเหี่ยวย่นของผู้สูงอายุตลอดจนผิวพรรณของร่างกายทั้งระบบ
ชายที่มีปัญหาในเรื่องนี้มักมีการพัฒนาผิวพรรณในระยะเดือนแรกๆ ของโปรแกรม ซึ่งนับว่าเป็นผลพลอยได้ ดังนั้น จึงควรนำโปรแกรมนี้ไปแนะนำคู่ชีวิต เพราะนอกจากจะเป็นการพัฒนาผิวพรรณของคู่ชีวิตให้ดูผ่องใสขึ้น ยังจะช่วยลดความเครียดของกล้ามเนื้อให้อีกต่างหาก โดยไม่จำเป็นต้องนวดหน้า อบสมุนไพรให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ
หากทำได้ดังนี้ก็นับว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งสองทาง อย่าลืมว่า หญิงจะมีปัญหาผมร่วง/ศีรษะล้านในแบบเดียวหรือลักษณะเดียวกับชาย เพียงแต่เธอได้รับการคุ้มครองจากฮอร์โมนเพศของตัวเองกระทั่งวัยพ้นรอบเดือนไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ หากให้คู่ชีวิตร่วมปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรมนี้อย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกันตั้งแต่บัดนี้ ก็จะไม่ประสบปัญหาเมื่อถึงวัยพ้นรอบเดือนไปแล้ว

สรุป...ปัญหาผมร่วง/ศีรษะล้านไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากกรรมพันธุ์โดยตรงรวมทั้งไม่ใช่ผลกระทบมาจากฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนที่มีต่อรากผมในบริเวณ “เป้าหมาย” สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าคือ : เลือดไม่สามารถเดินทางไปหล่อเลี้ยงบริเวณรากผมได้ (ซึ่งมีหลายสาเหตุ) มีสารอาหารจำเป็นในกระแสเลือดไม่เพียงพอ,ระบบน้ำเหลืองถ่ายของเสียออกจากระบบถูกเก็บกก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขให้ลุล่วงได้โดยโปรแกรมปลูกผมนี้ !!

วิธีการดูแลเส้นผมหนีภัยร้ายใกล้ตัว




"ผม” หมาย ถึงเส้นผมที่อยู่บนหนังศีรษะมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสีย ความร้อน และผิวหนังไม่ให้ได้รับอันตราย อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญต่อบุคลิกลักษณะของร่างกาย ซึ่งมีผลต่อจิตใจของคน ใครที่พบกับปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน ผมหงอก อาจก่อให้เกิดปัญหาทางใจ ช่น ซึมเศร้า ขาดความมั่นใจในตนเอง เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดกับใครก็คงไม่รู้
สาเหตุของปัญหาผม ผลิตภัณฑ์ดูแลผมภัยร้ายใกล้ตัวที่คุณอาจไม่รู้

แชมพู
ปัจจัย หนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผม คือสิ่งใกล้ตัวท่านแต่ถูกมองข้าม นั่นคือ แชมพูที่ท่านใช้อยู่เป็นประจำ แม้บางท่านจะบอกว่าท่านเปลี่ยนยี่ห้อไปอยู่เรื่อยๆ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าสารทำความสะอาดที่ถูกผสมในแชมพูเกือบทุกยี่ห้อ (แม้ในแชมพูที่ผสมสมุนไพรและอ้างว่าจากธรรมชาติ) ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ชะล้างรุนแรงและมีความเป็นด่างสูง โซเดียม ลอริล ซัลเฟต (Sodium lauryl sulfate; SLS) ซึ่ง ให้ฟองได้มาก ราคาถูก จึงเป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั้งหลาย เช่นผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาดพื้น สารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ ตกค้างสะสมและทำลายเซลผม (รวมถึงรากผม เซลสร้างเม็ดสี และเส้นผม) และเซลผิวหนัง เมื่อใช้บ่อยๆจะยิ่ง กระด้าง แห้ง แข็งเป็นไม้กวาด เริ่มหวีไม่อยู่ทรง  และ ทำให้หนังศีรษะมัน มากขึ้น
เนื่องจากสารเหล่านี้เป็นสารชะล้างอย่างรุนแรงและจะชะล้างไขมันตาม ธรรมชาติ(ที่ช่วยเคลือบให้ผมมันเงา) จึงทำให้ร่างกายต้องขับไขมันออกมาชดเชยมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุของคนที่หนังศีรษะมันยิ่งสระผมหนังศีรษะก็ยิ่งมัน บางรายเกิดการระคายเคืองเซลผิวชั้นหนังกำพร้าทำให้เกิดเป็น รังแค แต่ ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงก็ซื้อแชมพูขจัดรังแคมาใช้ซึ่งแชมพูประเภทนี้นอกจากจะมีสาร SLS แล้ว ยังผสมสารยับยั้งการเจริญเติบโตที่มากผิดปกติของเซลชั้นหนังกำพร้า แต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ เมื่อหยุดใช้อาการที่เป็นก็กลับมาเป็นอีก ทำให้เซลผิวต้องสัมผัสกับสารเคมี และถูกกดการทำงานอยู่ตลอด ทำให้เป็น รังแคเรื้อรัง

ครีมนวดผม/ทรีทเม้นท์หมักผม
สำหรับผู้ที่ชอบให้ผมนิ่มลื่น อาจยังไม่รู้ถึงพิษภัยจากสารกลุ่มซิลิโคน (มักมีชื่อลงท้ายด้วย “thicone”) เช่น ไซเมทธิโคน (Simethicone) ไดเอทธิโคน (Diethicone) หรือ อื่นๆ เป็นสารเคลือบเส้นผมทำให้ผมนิ่มลื่น เป็นมันวาว มีสปริง หวีง่าย แต่จะตกค้าง เคลือบรูเส้นผม เมื่อใช้ต่อเนื่องนานๆจะเกิดการสะสมอุดตันรูเส้นผม ทำให้เซลผมทำงานผิดปกติ การขับของเสีย การดูดซึมสารอาหารลดลง และทำให้ ผมร่วง เมื่อใช้ในระยะยาว
ที่เลี่ยงยากคือ สารเพิ่มฟอง เพิ่มความข้น ตัวฉกาจที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องใช้คือ DEA (ได เอทธานอลาไมด์)ซึ่งเกรงกันว่าอาจก่อ มะเร็ง จนในบางประเทศต้องให้ยกเลิกการใช้ สารอีกกลุ่มที่อาจก่อให้เกิด การแพ้ จากการใช้เป็นประจำแต่คนก็ชอบใช้คือ กลิ่นสังเคราะห์หอมๆ  สีสังเคราะห์สวยๆ  และลาโนลิน (Lanolin)
Demodex ไรขนที่คุณอาจไม่รู้
อีกสาเหตุหนึ่งที่คุณอาจไม่รู้คือ ไรขน (Demodex) ซึ่ง ติดต่อโดยการสัมผัส ตัวไรแพร่พันธุ์ อาศัยอยู่และแย่งกินสารอาหารที่รากผมทำให้ผมขาดสารอาหาร ผมจึงมี ขนาดเล็ก บางลง สีจางลง ขาดความมีชีวิตชีวา และหงอก นอกจากนั้นยังอาจทำลายโครงสร้างของเซลผม ทำให้ ผมร่วง หรือ หงิกงอ
เมื่อตัวไรคืบคลานไปบนหนังศีรษะหรือผิวโดยเฉพาะเวลากลางคืนจะทำให้ท่านที่มีประสาทไว (Sensitive) รู้สึก คันยิบๆ ขณะเดินทางมันจะปล่อยของเสีย และทิ้งคราบที่ลอกออกมา ทำให้เกิดขยะบนหนังศีรษะ หรือผิวหนังของเรา ซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรีย ไวรัส และริกเก็ทเซียที่เกาะอยู่ตามข้อต่อเล็กๆ ของขาตัวไร จึงก่อให้เกิดการติดเชื้ออักเสบเป็น สิว หรือ ตุ่มแดง บนหนังศีรษะ และที่สำคัญ หากร่างกายเกิดการต่อต้านของเสียที่ตัวไรขับออกมา และซากตัวไรที่ตาย ทำให้เกิดปฏิกิริยา แพ้ (Sensitization) เช่น แพ้เครื่องสำอาง สบู่ หรือแม้แต่เหงื่อของตัวเอง
และ เนื่องจากที่ขาของตัวไรมีเล็บแหลมคมสำหรับเกี่ยวจึงทำให้ผิวหนังเกิดการ ระคายเคืองและมีปฏิกิริยาโต้ตอบ โดยการสร้างผนังเซลผิวชั้นนอกขึ้นอย่างรวดเร็ว(Proliferation of Epithelium) ทำให้ผนังเซลพอกหนาและหลุดร่อนออกมาเร็วกว่าปกติเกิดเป็น รังแคหรือ สะเก็ด บนหนังศีรษะ

ข้อมูลจาก: นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 258

สูตรเร่งผมเสียกลับสวยอย่างเร่งด่วน



แต่นแต๊น.....ขอบคุณมั๊กๆค่ะที่มีผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชมและจะมีเคล็ดลับ..ดีๆมานำเหนอเรื่องๆค่ะ


สำหรับหลายท่านไปทำไฮไลท์แล้วแล้วผม ตายยยยยยยยยย
ที่แห้งกรังผมดูเป็นแผ่นๆ อาการผมตายค่ะ

วิธีแก้ไขอย่างเร่างด่วนก่อนที่ผมจะเริ่มเปื่อยและหลุดร่วง

เซรั่มยี่ห้อ DIPSO ขวดใสๆน้ำสีฟ้าหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยค่ะ ราคาประมาณ 35-45 บาท ผมยาวใช้สัก 2 ขวด
จะเป็นกระเปาะแก้ว

วิธีการ
สระผมให้สะอาด
หักประเปาะแก้วของเซรั่มใช้ททิชู่หรือผ้าพันก่อนหักระวังปาดมือค่ะ
แล้วเทใส่มือยีๆๆๆๆๆให้ทั่วศีรษะแล้วเอาแรปถนอมอาหารพักปิดไว้ค่ะ
ทิ้งไว้เลย 30 นาทีแล้วค่อยล้างออก


ทำอย่างนี้วันเว้นวันไปเลยค่ะ สักสามครั้งแล้วค่อยห่างๆไปเหลืออาทิตย์ละครั้ง


เซรั่มตัวนี้จะช่วยปิดเกล็ดผมที่เสีย ร้านทำผมจะเอาเซรั่มตัวนี้มาอบให้เราคิดราคาประมาณ 350-500 บาทค่ะ

อันนี้เราไม่ต้องไปอาบไอน้ำค่ะเพราะผมทำสี/ทำเคมีเกล็ดผมเปิด
(เปิง)รอรับอาหารบำรุงผมอยู่แล้วแล้วการยี...ผม เหมือนกันนวดหน้าค่ะเป็นการผลักวิตามินดีๆเข้าผม ส่วนการแรปผมเหมือนการอบไอน้ำในตัวค่ะ


ทำแล้วผมจะแข็งแรงขึ้นแต่ถ้าต้องการความเงางามไปซื้อแว๊กเงา ยี่ห้อ B5 สีขาวค่ะกระปุกเล็ก 160 บาทค่ะ

เพิ่มความเงางามด้วยการสระผมเสร็จใช้แว๊กตัวนี้หมักไปทีผมแล้วใช้แรปพันทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออกค่ะ เป่าผมให้ห้งผมจะเงางามเลยค่ะ


ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=blueangy&month=04-2007&date=22&group=2&gblog=2

ฟื้นฟูสภาพผมเสียให้สวยด้วยขั้นตอนง่ายๆ


ปัญหาเรื่องของเส้นผมมักเป็นสิ่งที่พบบ่อยในปัจจุบัน เนื่องจากสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับการทำผมกำลังมาแรง ยิ่งถ้าผมโดนแดดบ่อยๆ ก็จะทำให้ผมยิ่งเสีย หากไม่ได้รับการบำรุงก็จะทำให้สุขภาพผมยิ่งแย่ไปกว่าเดิม

การดูแลเอาใจใส่เส้นผมเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากผมสวยของคุณกลับกลายมาเป็นผมเสียล่ะก็จะทำให้ฟื้นฟูยากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนง่ายๆสำหรับผมสวยที่คุณสามารถดูแลได้ดังนี้

ทุกเช้าหลังตื่นนอน ใช้ปลายนิ้วมือสางผมอย่างอ่อนโยน ป้องกันปัญหาผมพันกัน

ก่อนสระผม ใช้แปรงไม้แปรงผมอย่างเบามือ เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดผมอยู่หลุดออก เพื่อความนุ่มสวยของผมก็อาจจะใช้น้ำมันมะกอกชโลมที่เส้นผม แล้วใช้มือสางให้ทั่วหมักทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนสระ

เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผมที่เหมาะกับสภาพผมของคุณ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ ซึ่งอาจทำลายสมดุลของสุขภาพผมได้

หมั่นบำรุงผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอไรเซอร์เข้มข้น เพื่อคืนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปให้แก่เส้นผม หลีกเลี่ยงการใส่ครีมนวดบริเวณโคนผม เพราะจะทำให้หนังศีรษะมัน

อย่าเกาศีรษะหรือขยี้ผมแรง ๆ ระหว่างสระควรใช้ปลายนิ้วมือนวดบำรุงหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และป้องกันหนังศีรษะเป็นแผลหรือเกิดรังแคได้

ผมเปียกจะอ่อนแอเป็นพิเศษ หลังสระจึงไม่ควรขยี้ผมหรือแปรงผมแรง ๆ แต่ถ้าจะแปรงให้ก้มหัวลงและใช้หวีแปรงที่โคนผมจนถึงปลายผม เพื่อกระตุ้นหนังศีรษะ

หากมีเวลาควรปล่อยให้ผมแห้งเองด้วยการใช้พัดลม หลีกเลี่ยงการไดร์ หนีบ หรือม้วนผมด้วยความร้อนสูง ๆ

วิธีแปรงผมที่ถูกต้อง ให้แบ่งผมเป็นส่วน ๆ ค่อย ๆ หวีผมทีละส่วนด้วยหวีไม้ซี่ห่าง ๆ หลีกเลี่ยงหวีพลาสติกที่จะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต เริ่มแปรงผมจากด้านในมาด้านนอก แปรงผมอย่างอ่อนโยนจากบนลงล่าง

รับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามินบี 6 แมกนีเซียม สังกะสี เพื่อบำรุงเส้นผม เช่น เนื้อ ตับ ไต ข้าวซ้อมมือ กล้วย ลูกพรุน ลูกเกด ถั่วต่าง ๆ นมและผักต่าง ๆ

หมั่นเล็มปลายผมทุก 8-10 สัปดาห์ ปิดท้ายด้วยการหลีกเลี่ยงการรัดผม มัดผม หรือคาดผมจนตึงแน่นนั่นเองเพื่อลดความเครียดและป้องกันปัญหาศีรษะล้านได้

ถ้าอยากให้ผมเสียกลับมามีสภาพที่สวยดังเดิมก็อย่าลืมดูแลเอาใจใส่สุขภาพผมกันนะค่ะ





ที่มา : www.thaihealth.or.th

8 สิ่งที่ทำให้ผมเสีย

ใครที่ไม่อยากมีผมเสียควรระวัง 8 ข้อต่อไปนี้ค่ะ



1. เป่าผม

จะทำให้ผมแห้งกรอบ ถ้าไม่รีบควรจะปล่อยให้ผมแห้งเอง โดยธรรมชาติบ้างและหากต้องใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าจ่อเครื่องเป่าให้แนบติด กับผมมากเกินไป หาเครื่องเป่าผมที่มีช่องลมโต ๆ และเปิดความร้อนให้ระดับต่ำสุด จะดีกับสุขภาพของเส้นผมมาก


2. แปรงผมวันละร้อยครั้ง

การจัดผมให้เข้ารูปเข้าทรง แปรงผมบ่อยเกินไป จะไปดึงเส้นผม อาจทำให้หนังศีรษะถลอกเป็นแผลได้ และที่สำคัญควรแปรงผมอย่างเบามือ เลือกใช้แปรงที่ขนแปรง***งกันมาก ๆ จะช่วยป้องกันเส้นผมพันกัน




3. ใช้แชมพูทูอินวันสะดวกดี

ไม่ควรใช้เป็นประจำ เพราะอาจทำให้เส้นผมหยาบกระด้างได้






4. ใช้ยางหนังสติ๊กรัดผมหรือยางที่สำหรับรัดปากถุง


จะทำให้ผมอ่อนแอ และแตกปลายได้ เลือกใช้ที่ยางรัดผม ที่หุ้มด้วยผ้าจะดีกว่า





5. เกาผมแรงๆ ในระหว่างสระผม
เพราะเกิดอาการคัน และถ้าเป็นรังแค การเกาแรงๆ จะทำให้รังแคลุกลามมากขึ้น การสระผมที่ถูกวิธี ควรนวดด้วยฝ่ามือแทน







6. ไม่ค่อยสระผม

การสระผมบ่อยๆ แล้วจะทำให้ผมแห้ง แต่ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญเรื่องผม ต่างยืนยันมาว่าไม่จริงยิ่งถ้าอยู่ท่ามกลางมลพิษก็จำเป็นจะต้องสระผมบ่อยๆ และควรสระทุกครั้งที่รู้สึกว่า ผมสกปรก เพราะสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษนั้น เป็นต้นเหตุให้ผมขาดประกายเงางามและกลายเป็นผมหยาบในที่สุด


7. ใช้เครื่องสำอางสำหรับผมมากไป

จะก่อให้เกิดการตกค้างของสารเคมีบนเส้นผม ทำให้เส้นผมส่องประกายเงางามได้ยาก ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมบ่อย ๆ ก็ควรจะสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนใสบ้าง เพื่อช่วยชำระสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ด้วย




8. ดัดผมยืดผม

เป็นการทารุณกับเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะศัตรูตัวร้ายรองจากแสงแดด และการเป่าผม ก็คือการปล่อยให้เส้นผมโดนสารเคมีแรงๆ จากน้ำยาดัดและยืดผม ซึ่งทำให้ผมเสียได้ง่ายๆ เหมือนกัน


ถ้าอยากมีผมที่สวยและเงางาม ก็อย่าลืมหันมาดูแลรักษาเส้นผมกันด้วย นะคะ

ทริปการดูแลผม

เมื่อปลายผมแห้ง หักง่าย
เมื่อคุณไว้ผมยาวนาน ๆ ปัญหาหนึ่งที่พบกันบ่อย คือปลายผมจะเริ่มแห้ง ขาดน้ำหนัก และหักง่าย ถ้าเจอปัญหานี้ ให้ใช้วิธี
เล็มปลายผมทิ้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ นอกจากนี้ลองสำรวจดูว่าปลอกหมอนที่คุณใช้ มีเนื้อผ้าหยาบ ๆหรือเปล่าเพราะอาจเป็นสาเหต ุหนึ่งที่ทำให้ผมหักได้ง่าย ลองเปลี่ยนมาใช้ปลอกหมอนที่ทำด้วยเนื้อผ้าลื่น จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ

ผมขาดน้ำหนักดูเบาฟู
มักมีสาเหตุมาจาก การใช้ผลิตภัณท์แต่งผม เช่น เจล มูส หรือสเปรย์ประเภทที่มีแอลกฮอล์ผสมอยู่ นอกจากนี้รังสียูวีใน
แสงแดด ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายโปรตีนในเส้นผม ทำให้เส้นผมดูหยาบ รวมถึงควันบุหรี่ ที่จับเกาะบนเส้นผม ก็อาจทำ
ให้เส้นผมขาดความมันเงาได้ วิธีแก้ ก็คือ หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารป้องกันยูวี
และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่อบอวลด้วยควันบุหรี่

เส้นผมขาด
มักเกิดจากการมัดรวบจนแน่นตึง การใช้หนังสติ๊กมารัดผม รวมทั้งการหวีผมแรง ๆ อาจทำให้เส้นผมขาดได้ง่าย
วิธีแก้ ให้รวบผมหลวมๆ หรือปล่อยผมสยายออก และไม่ควรใช้หนังสติ๊กซึ่งใช้มัดของ มารวบผม ควรใช้ยางรัดที่ออกแบบมาเพื่อรัดผมโดยเฉพาะจะดีกว่า

ผมแตกปลาย
ปัญหาผมแตกปลาย มีวิธีแก้ทางเดียวคือเล็มปลายผมทิ้ง

ผมลีบแบน
คนที่เส้นผมเล็ก เมื่อไว้ผมยาว อาจทำให้ดูลีบแบนได้ วิธีทำให้ดูผมพองตัว หลังจากสระผมแล้ว ให้ใช้สเปรย์ที่ช่วยเพิ่ม ความหนาให้กับเส้นผม แล้วเป่าให้แห้ง โดยก้มศีรษะลง ใช้แปรงกลมขนาดใหญ่ แปรงผม เพื่อให้ผมดูพองตัว จากนั้น แบ่งผมเป็นช่อ ๆ พันเส้นผมด้วยโรลม้วนผมขนาดใหญ่ ปล่อยทิ้งไว้สัก 10 นาที จะทำให้เส้นผมดูพองสวยขึ้นค่ะ

เคล็ดลับในการปราปผมชี้ตั้ง
ให้ใช้โลชั่นหรือครีมแต่งผม ทาที่ฝ่ามือเล็กน้อยแล้วสางผมเส้นผมให้ทั่ว และลองเปลี่ยนมาใช้ แปรงผมที่ขนแปรงทำจากธรรมชาติแทนพลาสติคนอกจากนี้ควรเลี่ยงการไดร์ผมบ่อย ซึ่งมักจะทำให้เส้นผมแห้ง เกิดไฟฟ้าสถิตย์ได้ง่าย

ผมตรงจะสวยได้นั้น เส้นผมต้องได้รับการดูแลอย่างดีเสียก่อน เพราะผมตรงจะสังเกตเห็นข้อบกพร่องของเส้นผมได้ค่อนข้างชัด ส่วนขั้นตอนการเซ็ตผมก็สำคัญไม่น้อย มาดูวิธีการเซ็ตอย่างมืออาชีพกันดีกว่าค่ะ

1. หลังสระผมแล้ว เช็ดผมให้แห้ง แล้วใช้มูส หรือThickening Cream ลูบให้ทั่ว เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผม

2. สางผม ...ใช้หวีซี่ห่าง ๆ สางผมให้ทั่ว จะช่วยครีมที่ช่วยเพิ่มความพองตัวให้ทั่ว ตั้งแต่รากจรดปลายผม

3. แบ่งผม ...แบ่งผมออกเป็น 5 ส่วน เท่าๆกัน รวบผมขึ้นมาติดกิ๊บไว้แล้วไดร์ฟทีละส่วน

4. แปรงแล้วเป่า ...แกะช่อผมออกมา แล้วสอดแปรงกลมขนาดใหญ่ลงใต้ผมส่วนนั้น ค่อย ๆลากแปรงจากลงมาตรง ๆ จากโคนถึงปลายอย่างใจเย็น โดยใช้ความร้อน และลมปานกลาง ถ้าลมแรงหรือร้อนเกินไป จะทำให้ผมแห้งฟู ไม่เรียบตรงอย่าง ที่ต้องการ จากนั้นจึงวางแปรงที่ด้านบน แล้วแปรงลงมา ในขณะที่เป่าให้แห้งจะช่วยเพิ่มความนุ่มสลวยให้กับเส้นผม ทำแบบเดียวกันกับเส้นผมช่ออื่น ๆ จนครบ

5. แต่งทรงให้เรียบสลวย ...ถ้าคุณเป็นคนผมหนา ให้บีบเจลหรือครีมแต่งผม ใส่ที่ฝ่ามือ แล้วลูบเบา ๆที่เส้นผม จะช่วย

กำราบผมตั้งชี้ได้ ส่วนคนผมเส้นเล็ก เซรุ่มแบบไม่มีน้ำมัน สามารถใช้ได้ดีแต่แวกซ์ หรือครีมใส่ผมที่มีความมันมาก ๆจะทำให้เส้นผมลีบเยิ้ม และหมดสวยได้

ด้วยขั้นตอนและเคล็ดลับง่าย ๆนี้ ก็ช่วยให้คุณมีผมสวยพลิ้วได้ทันใจ และด้วยตัวคุณเองค่ะ

เคล็ดลับที่ไม่ลับสำหรับสาวๆ ที่รักผม จะสั้นหรือยาวก็ใช้ได้ค่ะไม่สงวนลิขสิทธิ์

ผมสลวยสวยเก๋๋
ส่วนผสม
กล้วยหอมสุก ( แบบงอมๆๆ ) หรือกล้วยหอมที่ใกล้เสียจะยิ่งดีมาก (เพราะว่าจะมีน้ำมันของกล้วยหอมออกมามาก)
วิธีทำ
1. นำเนื้อกล้วยมาขยำให้เละ
2. แล้วนำมาพอกกับผม ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับเส้นผมมากน้อย
3. ทั้งไว้ 15-20 นาที แล้วสระตามปกติ
**ผมจะเงาสลวยสวยเก๋เท่ห์ และถูก***

ผมสลวยมีน้ำหนัก
ส่วนผสม
• วุ้นในว่านหางจระเข้ / กะทิ
• ไข่แดง
• น้ำมันมะกอก
วิธีทำ
1. นำวุ้นในหางจระเข้ / กะทิมาผสมกับไข่แดง น้ำมันมะกอก ปั่นให้เข้ากัน
2. แล้วนำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นล้างออก
ทำเพียงอาทิตย์ ละ 1-2 ครั้ง เส้นผมที่แห้งแตกปลายไร้น้ำหนัก ก็จะกลับมานุ่มนวลดังเดิม

ผมสวยด้วยเบียร์
ส่วนผสม
• เบียร์ 1 กระป๋องหรือมากกว่านั้น (แล้วแต่ความยาวของผม)
• ไข

วิธีป้องกันผมเสียง่ายๆ





ผมที่ต้องโดนแดดเป็นประจำ หรือต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ ก็อาจทำให้เส้นผมแตกแห้งได้ง่ายๆ หรือบางคนก็อาจจะมีผมแตกปลาย ให้เตรียมน้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และไข่ไก่ 1 ฟองไว้เลยค่ะ


นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาเทใส่ภาชนะแล้วผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันจนข้นเป็นครีม ตั้งพักไว้ แล้วไปล้างผมด้วยน้ำเปล่า แล้วนำครีมที่ได้มาชโลมให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ และนวดเบาๆ ใช้ผ้าขนหนูคลุมผมทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออก และสระผมด้วยแชมพูอีกครั้งค่ะ ควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ค่ะ

และยังมีสมุนไพรบำรุงเส้นผม มาฝากอีกหลายชนิดเจ้าค่ะ

อัญชัน ในอัญชันมีสารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารด้านอนุมูลอิสระที่พบมากในพืชที่ให้ดอกสีแดง สีน้ำเงิน หรือสีม่วง มีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เมื่อนำอัญชันมาบดละอียด แล้วนำน้ำคั้นที่ได้มาชโลมศีรษะ จะช่วยให้โลหิตไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงที่รากผมได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เส้นผมดกดำแข็งแรงและเป็นเงางาม

มะกรูด เพียงนำมะกรูดมาคั้นเอาแต่น้ำ ขยี้ให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็ช่วยขจัดรังแคได้ แต่ถ้าต้องการให้ผมดกดำก็นำมะกรูด 1 ผลมาบีบเอาน้ำผสมกับหัวกะทิ คนให้เข้ากัน ชโลมให้ทั่วศรีษะ นำผ้าอบร้อนๆมาโพกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มะพร้าว ช่วยรักษาผมแห้งแตกปลายและทำให้ผมนิ่ม ด้วยการนำเนื้อมะพร้าวขูดคั้นเป็นน้ำกะทิ จากนั้นจึงเคี่ยวให้ได้เป็นน้ำมันมะพร้าว ใช้นวดผมประมาณ 15 นาที
(วิธีนี้ทำเองจะมีกลิ่นหืนนิดๆนะครับ เดี๋ยวนี้เขามีน้ำมันมะพร้าวออกมาขายแล้วไม่มีกลิ่นหืนมีแต่กลิ่นมะพร้าวกลิ่นคล้ายวนิลา หาซื้อได้ตามร้านแหล่งสปาทั่วไป)

มะขามเปียก ทำให้รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย โดยนำมะขามเปียกแช่ในน้ำอุ่นๆ พอมะขามพองตัวออกเป็นเมือก แล้วขยำเนื้อมะขามกับน้ำให้เข้ากันดี ระวังอย่างให้เหลวใสเกินไป หลังสระผมสะอาดดีแล้วก็นำน้ำมะขามเปียกข้นๆมานวดหนังศีรษะและเรือนผมให้ทั่ว โพกทับด้วยผ้าขนหนูอุ่นจัดๆราว 15-30 นาทีจึงล้างออก

งา นับเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่ช่วยในเรื่องของเส้นผม เพราะช่วยให้สภาพผมที่แห้งเลียกลับมามีน้ำหนักและเป็นเงางามขึ้น เพียงนำมะกรูด 2-3 ผลมาคั้นน้ำ ผสมกับน้ำมันงาประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะให้เข้ากันดี ชโลมให้ทั่วศีรษะ หมักไว้สักครึ่งชั่วโมงแล้วจึงสระออกตามปกติ

ตะไคร้ นำน้ำตะไคร้มาตวดหลังสระจะช่วยขจัดรังแค แก้ปัญหาผมแตกปลาย และช่วยให้เส้นผมดกดำขึ้น

ส้มป่อย นำใบส้มป่อยต้มกับน้ำแล้วใช้สระผม ซึ่งส้มป่อยจะช่วยให้เรือนผมสะอาด หวีง่าย ดกดำเป็นเงางาม รวมทั้งช่วยขจัดรังแคและบำรุงหนังศีรษะอีกด้วย

ขิง ช่วยบรรเทาอาการหลุดร่วงของเส้นผม และเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผมโดยนำขิงสดทั้งเหง้ามาอังไฟให้อุ่นจัดๆ แล้วฝานเป็นชิ้นเล็ก ตำให้ละเอียด นำไปพอกบริเวณที่ผมร่วงมาก

ว่านหางจระเข้ ช่วยบำรุงผมให้ดกดำเงางาม เพียงนำวุ้นใสๆ ที่ได้จากว่านหางจระเข้มาล้างน้ำสะอาด ปั่นจนเป็นน้ำกรองด้วยผ้าขาวบางแล้วนำมานวดผม ทิ้งไว้ 10-15 นาทีจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ผักบุ้ง นำใบและลำต้นมาต้มกับน้ำ หลังจากที่สระผมเสร็จแล้วชโลมศีรษะด้วยน้ำผักบุ้งทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น๐ จะทำให้เส้นผมนิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมอีกทางหนึ่งด้วย

มะนาว ช่วยคืนความเงางามให้กับเส้นผม ด้วยการนำมะนาวครึ่งลูก (หรือน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ) ใส่บงในน้ำเย็น 1 ลิตร ผสมให้เข้ากันชโลมให้ทั่วศีรษะหลังจากสระผมเรียบร้อยแล้ว

เบียร์ ช่วยให้เส้นผมที่เคยอ่อนแอกลับแข็งแรง เพียงนำเบียร์ 1 ถ้วยผสมกับน้ำ 3 ถ้วย ชโลมให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงล้างออก

โยเกิร์ต โปรตีนและเอนไซม์จากนมทำให้เส้นผมนุ่มสลวย โดยใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยหมักผมให้ทั่ว และโพกศีรษะด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นจึงล้างออกให้สะอาด

ไข่ไก่ มีมากมายหลายสูตรที่ทำให้เส้นผมนุ่มสลวย แบบย่อๆ : ไข่ไก่ผสมมะนาว, ไข่ไก่ผสมเบียร์, ไข่ไก่ผสมน้ำมันมะกอก

ที่มา:


เคล็ดลับผมมีน้ําหนัก ปรับทรง ตามสภาพเส้นผม

ทรงผม



สภาพเส้นผมของคนเรานั้นแตกต่างกัน สาวคนไหนที่มีเส้นผมเหยียดตรง สลวย มีน้ำหนัก จัดแต่งทรงง่าย บุคลิกภาพและความมั่นใจก็มีตามมาอย่างแน่นอน ในทางกลับกัน สาวที่มีเส้นผมหยักศก หนาเส้นใหญ่และฟูมาก หรือบางทีก็บางไร้น้ำหนัก ความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนก็ย่อมลดลงไป แต่อย่าเพิ่งน้อยน้อยใจไปเลย ทุกปัญหามีทางออกเสมอค่ะ

ผมหยักศก

สำหรับสาวที่มีผมหยักศก ซึ่งทำให้หน้าดูเข้ม และมีอายุขึ้น วิธีการทำให้กลับมามีบุคลิกดี แก้ไขโดยการยืดผมให้ตรงด้วยวิธี reborning (ยืดผมถาวร) วิธีนี้จะช่วยให้ผมตรงดูดี หรือจะซอยผมช่วยด้วยก็ได้ เพื่อเปลี่ยนบุคลิกของตัวเราเป็นอีกแบบส่วนคุณผู้หญิงที่มีอายุหน่อย ผมอาจค่อนข้างดูแลลำบากและไม่ค่อยเป็นทรง ถ้าปล่อยไปผมก็จะดูฟูเหมือนเพิ่งตื่นนอน ให้ใช้การดัดผมเข้าช่วย จะทำให้เส้นผมมีทิศทางไม่ฟูฟ่อง และสามารถจัดทรงได้ง่ายด้วย

ผมหนาเส้นใหญ่และฟูมาก

สาวที่มีลักษณะผมแบบนี้ มักจะขาดความมั่นใจยิ่งถ้าโดนแซวว่าผมหนาบ้าง ผมฟูเป็นสิงโตบ้าง แถมจัดแต่งทรงก็ลำบากเหมือนคนที่ไม่ได้ดูแลผมตัวเองเลย ในกรณีนี้หากอยากแก้ไขมี 2 ทาง ทางแรกสำหรับสาวที่ต้องการเปลี่ยนบุคลิกไปเลย ให้ใช้การตัดผมทิ้งแล้วซอยผมออกแบบสไลด์โดยใช้มีดโกนหรือกรรไกรฟัน เพื่อให้ผมที่ดูหนาและฟูบางลง ซึ่งต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ ส่วนสาวที่ยังต้องการไว้ผมยาวให้ซอยสไลด์เหมือนกัน แต่ให้ซอยเฉพาะผมด้านใน เพื่อลดความหนาของผมลง ซึ่งผมจะยังคงความยาวอยู่

ผมเส้นเล็กและไม่มีน้ำหนัก

ส่วนสาวๆ ที่มีปัญหาผมขาดน้ำหนักและผมเส้นเล็ก วันไหนที่ต้องเจอลมพัดแรงๆ ผมจะฟูดูไม่ได้เลย แก้ไขด้วยการบำรุงให้สุขภาพผมดีขึ้น อาจจะใช้วิธีการหมักด้วยโคลน อบสมุนไพร ทำสปาผม เพื่อให้สารอาหารต่างๆ แก่เส้นผม ช่วยให้ผมมีน้ำหนักขึ้น หรืออาจจะทำการเคลือบสีผมหรือเคลือบเงาด้วยก็ได้ ถ้าเป็นสาวผมยาวแล้วอยากจะตัดผม แนะนำให้ซอยเฉพาะผมด้านหน้าเท่านั้น และไม่ควรซอยไล่ให้บางส่วนผมด้านหลังปล่อยให้ยาวเพื่อรักษาความหนาของเส้นผมไว้ สิ่งสำคัญของสาวผมบางและไม่มีน้ำหนักก็คือ ให้ทำการบำรุงผมเพื่อให้ผมมีสุขภาพดี

ปัญหาเส้นผมเกิดขึ้นได้กับทุกคน

หากขาดการใส่ใจและดูแลอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะหญิงสาวแล้วถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะส่งผลถึงบุคลิกภาพและความมั่นใจ ฉะนั้นถ้าเกิดปัญหาแล้วต้องหาทางแก้ไข ก่อนที่จะสายเกินไปค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือสวยด้วยแพทย์

วิธีดูแลเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางาม

5 วิธีดูแลเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางาม

เครี๊ยด! เครียด เครียด ดูสิคะคุณน้องอ๊บ อ๊บขา ผมของคุณพี่แอ๊บแอ้ เป็นอะไรก็ไม่รู้แห้งแตกปลายไปหมดเลยค่ะ -_-*

{แล้วคุณพี่ไปทำอะไรมาล่ะคะ?}

เอ่อ...ก็ เรื่องนั้นช่างเถอะค่ะ ว่าแต่คุณน้องอ๊บ อ๊บ พอจะมีวิธีที่ทำให้เส้นผมของคุณพี่แอ๊บแอ้

เป็นมันเงางามสปริงตัวสลวยราวกับเส้นไหมทองคำจากเทือกเขาอัลไต รึเปล่าคะ

{-_-a อืม....^o^ อ้อ! มีค่ะ}

ต้องทำยังไงเหรอคะคุณน้องอ๊บ อ๊บขา~

{ไปเกิดใหม่สิคะ....คิกคิก}

-_-‘’ คุณผู้อ่านคะพอจะมีขี้เถ้าสักถุงหนึ่ง ให้คุณพี่แอ๊บแอ้ยืมมั๊ยคะ (จะเอามายัดปากคนกวนประสาทแถวนี้หน่อย หึหึ)

เรื่องของ ผม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะสาวผมสวยมักจะเป็นจุดดึงดูดจากหนุ่ม ๆ ได้ไม่น้อย ซึ่งวันนี้คุณน้องอ๊บ อ๊บก็มีวิธีรักษาสุขภาพเส้นผมมาฝากกันค่ะ

วิธีที่1 ก่อนสระผมทุกครั้ง เราควรแปรงขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเส้นผมออก และสางเส้นผมที่พันกันออกเสียก่อน แต่อย่าแปรงแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เส้นผมหักขาด และเสียได้

วิธีที่2 ก็คือการนวดหนังศีรษะค่ะ สำหรับขั้นตอนนี้ จะเป็นการกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดของหนังศีรษะ และทำให้เส้นผมแข็งแรง โดยการนวดคลึงหนังศีรษะด้วยอุ้งนิ้ว ในลักษณะเคลื่อนไปมาบนหนังศีรษะจากด้านล่างขึ้นไป การกดหนังศีรษะ ให้กดเป็นจังหวะ โดยใช้อุ้งนิ้วค่อยๆ กดแล้วคลายออก ทำซ้ำๆ เบาๆ โดยไม่ให้เล็บจิกหนังศีรษะ เพราะจะเป็นการทำลายรากผม ส่วนการเคาะนั้น ค่อยๆ เคาะอุ้งนิ้วลงบนกระหม่อมช้าๆ เป็นจังหวะอย่างเบามือ และทุบเบาๆให้ทั่วหนังศีรษะ

ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ แบบนี้ถูกมั๊ยคะ คุณน้องอ๊บ อ๊บ

{คุณพี่แอ๊บแอ้คะไม่ต้องทุบแรงขนาดนั้นก็ได้ค่ะดูสิหัวเหอปูดหมดแล้ว....เฮ้อ}

วิธีที่3 การเพิ่มความเงางามด้วยนํ้าส้มสายชู หลังการสระผมทุกครั้งใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น 3 แก้ว ราดบนเส้นผมของคุณ หลังการสระผมทุกครั้ง แล้วใช้หวีสางผมให้ทั่วๆ ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยการใช้น้ำส้มสายชูล้างเส้นผมเป็นน้ำสุดท้าย วิธีนี้นอกจากจะเพิ่มความเงางามให้เส้นผมแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาผมพันกันได้อีกด้วยค่ะ

อื๊ดดดดดดดดดดดด อื๊ดดดดดดดดดดด (คุณพี่แอ๊บแอ้กำลังใช้หวีสางปมเส้นผมแข็งกระด้างแห้งแตกปลายอย่างทุลักทุเล)

{แต่ถ้าผมพันกันอีรุงตุงนังแบบคุณพี่แอ๊บแอ้ ก็คงต้องใช้วิธีเดียวค่ะ....โกนผมทิ้ง คิกคิก}

วิธีที่4 การล้างผมด้วยนํ้าเย็นก็ช่วยได้ค่ะ เนื่องจากการใช้ความเย็นของน้ำ จะช่วยทำให้ต่อมรากผมปิดตัว และช่วยให้เส้นผมของคุณเงางาม

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด! *0*

{ว้าาาาาาาาาาาย! คุณพี่แอ๊บแอ้ ใช้นํ้าเย็นค่ะไม่ใช่นํ้าร้อน}

วิธีที่5 การซับผมด้วยผ้าขนหนูเบาๆ อย่าใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรงๆ เพราะจะทำลายความยืดหยุ่นของเส้นผมคุณ แต่ให้ใช้ปลายนิ้วบีบน้ำบนเส้นผมออก แล้วใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ แล้วปล่อยให้เส้นผมแห้งตามธรรมชาติ

นอกจากนี้การทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงรากผม ก็จะทำให้เส้นผมของคุณคุณแข็งแรงและเงางามอยู่เสมอค่ะ

เดี๋ยวคุณน้องอ๊บขอตัวพาคุณพี่แอ๊บแอ้ไปส่งมูลนิธิร่วมกตัญญู เอ๊ย ไปหาคุณหมอก่อนนะคะ แล้วพบกันวันพรุ่งนี้

กราบลา....ซาโยนาระค่ะ

ข้อมูลอ้างอิงจาก : http://health.deedeejang.com/news/tip-hair-good.html

รูปประกอบจาก : http://www.pattayadailynews.com

กวาวเครือ ใช่แค่อึ๋มปึ๋งปั๋งยังบํารุงเส้นผม

รศ.ดร.วิชัย เชิดชีวศาสตร์
อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทย นับวันจะยิ่งเป็นที่เลื่องลือ โดยเฉพาะระยะหลังนี้ มีการพูดคุยถึงประสิทธิภาพของ "กวาวเครือ" อย่างกว้างขวาง เหตุใด "กวาวเครือ" จึงฮิตฮอตในหมู่คนรักสุขภาพ และสมุนไพรไทยชนิดนี้มีสรรพคุณดีๆ อะไรซ่อนอยู่ (นอกเหนือจากการกระตุ้นความปึ๋งปั๋งของผู้ชาย และเพิ่มความอึ๋มให้สาวๆ อย่างที่กล่าวอ้างกัน) ค้นหาคำตอบได้จากเจ้าพ่อกวาวเครือตัวจริง"รศ.ดร.วิชัย เชิดชีวศาสตร์" อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งค้นคว้าและวิจัยเรื่องนี้มาเป็น ทศวรรษๆ
ที่จริง "กวาวเครือ" มีอยู่ หลายสายพันธุ์มาก และให้ประสิทธิภาพแตกต่างกันไป อย่างในแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น ลาวกับพม่าจะเป็นพันธุ์ "กวาวเครือขาว" คล้ายๆในบ้านเรา ทางแถบประเทศจีน, ญี่ปุ่นและเกาหลี ก็มีกวาวเครือเหมือนกัน แถมยังโด่งดังไปทั่วโลกด้วย เป็นที่รู้จักในชื่อ "คุดสึ" มีประสิทธิภาพอ่อนกว่าของบ้านเรามาก แต่ดังกว่า เพราะประเทศพวกนี้ทำการตลาดเก่ง ผมว่าคนไทยรู้จักใช้กวาวเครือมานานแล้ว อย่างชาวบ้านตามต่างจังหวัดจะเอาหัวกวาวเครือมาบดละเอียด แล้วผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน ทานเป็นการบำรุง เพราะเชื่อกันว่าพืชพันธุ์ชนิดนี้ช่วยเรื่อง ความเสื่อมสมรรถภาพของผู้ชาย รศ.ดร. วิชัยปูพื้นเรื่องความเป็นมาเป็นไปของ "กวาวเครือ"
อย่างไรก็ดี ในฐานะนักชีววิทยา "เจ้าพ่อกวาวเครือ" ยืนยันว่า การวิจัยประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยทุกอย่าง รวมถึง "กวาวเครือ" จะต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้จริง ซึ่งกว่าจะได้ผลวิจัยแต่ละเรื่อง ต้องผ่านขั้นตอนในห้องแล็บยาวนานมาก อย่างการศึกษาเรื่อง "กาวเครือ" ต้องทดสอบแล้วทดสอบอีกในหนูและลิง ก่อนจะมาทดสอบกับมนุษย์ สิ่งที่ทราบแน่นอนจากผลการวิจัยก็คือ สมุนไพรกลุ่มกวาวเครือ มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ และเมื่อค้นคว้าต่อไปยังพบว่า "กวาวเครือ" ทำให้เซลล์อายุยืนขึ้น เนื้อเยื่อเสื่อมช้าลง ก็เท่ากับร่างกายเสื่อมช้าลงไปด้วย
ผลเบื้องต้นจากการวิจัยดังกล่าวทำให้ "รศ.ดร.วิชัย" เกิดปิงไอเดียว่า ในเมื่อ "กวาวเครือ" ทำให้เซลล์ อายุยืนขึ้นได้ ถ้านำมาปรับใช้กับเส้นผม ก็น่าจะช่วยให้เซลล์ผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และนี่เองจึงเป็นที่มาของการคิดค้นแชมพูจอยซ์ แฮร์ โทนิค ซึ่งมีกวาวเครือแดงและขาวเป็นส่วนผสมหลัก โดยทั่วไป ถ้าพูดถึงเรื่องเส้นผม คนมักจะนึกถึงการใช้มะกรูด เพื่อให้ผมเงางามดกดำขึ้น แต่ที่จริงแล้ว มะกรูดมีประสิทธิภาพทำให้ผมนุ่มขึ้นแค่ภายนอกเท่านั้น ไม่สามารถซึมลึกเข้าไปถึงเซลล์ผม ตรงกันข้าม เมื่อทดลองใช้ "กวาวเครือ" กับกลุ่มตัวอย่างเพศชาย กลับพบว่า เส้นผมแข็งแรงขึ้น ไม่หลุดร่วง แถมยังมีเส้นผมขึ้นใหม่ด้วย ถือเป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมาก เพราะ "กวาวเครือ" เข้าไปทรีตเมนต์ลึกถึงเซลล์ผม ทำให้เซลล์ ผมแข็งแรง และไม่หลุดร่วงง่าย รวมทั้งต่อมไขมันขับน้ำมันออกมาได้อย่างสมดุล ส่งผลให้ผมชุ่มชื้น โดยเฉพาะ "กวาวเครือแดง" ค้นพบว่า มีคุณสมบัติช่วยบำรุงหลอดเลือด ให้เลือดหมุนเวียนดี สามารถนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ดี เมื่อผสมกับ "กวาวเครือขาว" ซึ่งมีสรรพคุณเรื่องบำรุงหนังศีรษะให้มีน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ ช่วยลดอาการคันศีรษะและรังแคอันเกิดจากหนังศีรษะแห้ง ก็ยิ่งทำให้ได้ประสิทธิผลเพิ่มขึ้นเป็นดับเบิ้ล!!”
อาจารย์วิชัยยังฝากบอกด้วยว่า สมุนไพรไทยมีประสิทธิภาพไม่แพ้สมุนไพรพันธุ์ดังๆของโลก เพียงแต่มีจุดอ่อนตรงที่การควบคุมคุณภาพการผลิต และการรักษามาตรฐานความปลอดภัย ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากกระตุ้นให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนการวิจัยเรื่องนี้ และหาตลาดรองรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้กว้างขวางมากขึ้น รวมถึงโปรโมตสมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก ให้เป็นสัญลักษณ์ ของประเทศไทย เหมือนกับที่ใครไปประเทศเกาหลีใต้ก็ต้องซื้อโสมเกาหลีกลับบ้าน ในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกล เราอาจเห็นโปรดักส์จาก "กวาวเครือ" โกอินเตอร์กับเขาบ้าง

แนะนำวิธีกินเพื่อ "ผมสุขภาพดี"



เรื่องราวเกี่ยวกับการบำรุง "เส้นผม" .....ซึ่ง "ริชาร์ด วาร์ด" ช่างผมชื่อดัง ได้แนะนำวิธีการต่างๆ เพื่อทำให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดีและสวยงาม โดยเน้นที่การเลือกทานรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง

"ริชาร์ด วาร์ด" กล่าวว่า คุณคือสิ่งที่คุณกิน เส้นผมที่มีชีวิตชีวา แวววาว และมีน้ำหนักจำเป็นต้องถูกดูแลจากภายใน การ เปลี่ยนแปลงนิสัยการกินและการใช้ชีวิต จะส่งผลอย่างไม่น่าเชื่อต่อสุขภาพผม


กูรูด้านเส้นผมคนนี้ก็ให้แนะนำไว้ ดังนี้

1.เส้นผมที่แข็งแรงขึ้นอยู่กับการถูกเลี้ยงจากเลือด เส้นผมที่กระด้างและขาดชีวิตชีวา มักมีสาเหตุจากการขาดวิตามิน ความเครียดหรือการสูบบุหรี่
2.การทำให้เส้นผมชุ่มชื่นและหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผมแห้ง เช่น การดื่มกาแฟหรือเหล้า คือตัวแปรสำคัญของผมสวย
3.การบริโภค "คาเฟอีน" มากเกินไป ทำให้ร่ายกายรักษาแร่ธาตุต่างๆ ได้น้อยลง อาจส่งผลให้เกิดภาวะ "ผมบาง" หรือ "ผมร่วง"
4.การรับประทานอาหารที่ช่วยสร้างเลือด เช่น ถั่วต่างๆ เมล็ดต่างๆ และลูกเบอร์รี่สีเข้มทั้งหลาย จะช่วยให้สุขภาพผมดีขึ้น
5."ผักใบสีเขียวเข้ม" ทั้งหลาย เช่น ผักโขม เป็นแหล่งอาหารที่ดี มีธาตุเหล็กสูง
6. "น้ำมันปลา" เป็นแหล่งของโอเมก้า 3 ที่ช่วยให้ผมสุขภาพดี
7. วิตามัน บี เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อเส้นผม ขอแนะนำให้ทาน "ไข่" ซึ่งจะให้ผลดีไม่แพ้การหมักผมด้วยไข่

ความเชื่อเกี่ยวกับเส้นผม "ที่เป็นความจริง"

- การแปรงผม 100 ครั้งต่อวัน จะทำให้ผมสุขภาพดีขึ้น
เป็นความจริง เนื่องจากการแปรงผมจะกระตุ้นหนังศรีษะ ซึ่งส่งผลให้เกิดการกระตุ้นกระบวนการสร้างเลือดตามไปด้วย ดังนั้น จะทำให้ผมยาวเร็วขึ้นและแข็งแรงขึ้น

- การกิน "เจลาติน" จะทำให้ผมตรงมากขึ้น
เป็นความจริง เพราะเจลาตินอุดมไปด้วยโปรตีน นอกจากนี้ เจลาตินยังผลิตมาจาก "คอลลาเจน" ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยให้ผมที่งอกใหม่แข็งแรง

- การล้างผมด้วย "น้ำเย็น" ทำให้ผมเงางาม
เป็นความจริง การสระผมด้วยน้ำเย็นช่วยให้ผมเงางามได้จริง แต่อยากแนะนำให้สระผมด้วย "น้ำอุ่น" เพราะจะยิ่งทำให้ผมเงางามขึ้นไปอีก

ความเชื่อเกี่ยวกับเส้นผม "ที่เป็นเพียงนิยาย" (คือไม่เป็นความจริง)

- เมื่อถอนผมงอก 1 เส้นจะทำให้เกิดผมงอกขึ้น 2 เส้นในที่เดิมนั้น ไม่เป็นความจริง

- การตัดผมจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น หรือการไม่ตัดผมจะทำให้ผมยาวเร็วขึ้น ถือว่าไม่เป็นจริงทั้ง 2 กรณี

- การเล็มปลายผมบ่อยๆ เพื่อกำจัดผมแตกปลาย ก็ไม่ช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้นหรือยาวช้าลงแต่อย่างใดเช่นกัน



สมุนไพร ใกล้ตัว

"นอกจากใช้รับประทาน ยังนำมาใช้ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี"

สมุนไพร ใกล้ตัว ปลูกริมรั้วที่บ้าน ที่สำคัญสมุนไพรพวกนี้ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ เพราะธรรมชาติล้วน ๆ ไม่มีสารเคมีมาเจือปนให้รำคาญใจ แต่ก่อนอื่นต้องวิเคราะห์ว่า เรามีปัญหาอะไร?

ผมร่วง เชิญทางนี้

ใคร ที่ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ สระทีผมหลุดออกมาเป็นกระจุก ปล่อยไว้เสี่ยงหัวล้านแน่ รีบหาน้ำมันมะกอกมาทาผมให้ทั่วแล้วนวดศีรษะทำสักพักค่อยล้างออกด้วยสบู่ หรือแชมพู ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ไม่เกิน 1 เดือนผมจะค่อย ๆ หยุดร่วง

รังแค กวนใจไม่หยุดหย่อน

เมือง ไทยคงไม่มีวันมีหิมะตกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นใครมีรังแค ไหนจะเสียบุคลิก ไหนจะคันแย่ แนะนำผลมะคำดีควายทุบพอแหลก ต้มในน้ำให้เดือด นำน้ำที่ได้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะทำให้หนังศีรษะสะอาด ป้องกันการเกิดรังแค แถมแก้โรคชันตุได้อีกด้วย

ส่วนใครที่มีอาการคัน ให้นำว่านหางจระเข้ปลอกเปลือก เอาแต่ส่วนที่เป็นวุ้นมาบดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เวลาสระผมให้ขยี้วุ้นว่านหางจระเข้ทาให้ทั่วผมทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ล้างออกให้สะอาด ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดอาการคันได้ชะงัด

ยี้ มีเหามารังควาน

สูตรเดิมที่เคยรู้ใบน้อยหน่ายังใช้ได้อยู่ เด็ดมาสัก 8 ใบ โขลกให้ละเอียดผสมน้ำ ทาผมให้ทั่ว เอาผ้าคลุมทิ้งไว้สักครึ่งชม.ค่อยล้างออก สระผมตามอีกครั้ง แต่ระวัง! น้ำน้อยหน่าเข้าตา ขอเตือนว่าแสบมาก ใครไม่มีใบน้อยหน่าแนะนำให้ใช้ใบสะเดาแก่ ๆ แทนได้ วิธีการเหมือนกันเป๊ะ

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอีกมากที่เป็นประโยชน์กับเส้นผมและหนังศีรษะ ต่อไปก่อนซื้อแชมพู อ่านส่วนผสมก่อนว่ามีที่เราต้องการหรือยัง ?

ผมมัน : เลือกสารสกัดจากธรรมชาติ พวก แตงกวา กระเพรา เบอร์กามอท และจูนิเปอร์ ช่วยลดความมันเยิ้มของหนังศีรษะ เส้นผมหลีบแบนได้

ผมแห้ง : เลือกสารสกัดจากดอกกล้วยไม้ กระเพรา โสม ขิง ช่วยให้ผมแห้งเสียกลับมามีน้ำหนัก สปริงตัวสวยอีกครั้ง

ผมแตกปลาย : เกิดจากใช้แชมพูที่มีกรดหรือด่างมากเกินไป เลือกสารสกัดจากตะไคร้ น้ำมันมะกอก ลูกมะกรูด ลดอาการแตกปลายได้

ผมธรรมดา : นับว่าเป็นคนโชคดีสุด ๆ แต่ต้องไม่ลืมบำรุงสม่ำเสมอ ไม่งั้นสภาพผมอาจแย่ได้ เลือกที่มีสารสกัดดอกฮอลลี่ฮ็อก กระเพรา อัญชัน มะกรูด ช่วยให้ผมดกดำ เงางามยิ่งขึ้น

เห็นไหมว่า สมุนไพรไทย ภูมิปัญญาไทย เจ๋งจริง.

ข้อมูล : http://www.thaihealth.or.th

9 วิธี มีผมสวยอย่างที่ฝัน ด้วยตัวเองที่บ้าน


1.งดหนึ่งวัน คุณรู้ไหมว่า การงดสระผมหนึ่งวันน่ะมีข้อดีหลายสถาน หนึ่งเลยคือ ได้มีเวลานอนเอเขนกต่อบนเตียงอีกครึ่งชั่วโมง สองไม่ต้องเป่าผมทําให้ผมไม่ถูกทําลายด้วยความร้อนแถมจะเกล้าผมก็เด็ด เพราะผมที่ไม่สระมาวันหนึ่งจะมีนําหนักและอยู่ทรงกว่าผมที่สระแล้วเกล้า และสุดท้ายสีผมก็ไม่จางเร็วด้วย เพราะงดสระผมหนึ่งวัน ทุกครังที่คุณสระผม เม็ดสีในสีผมก็จะจางลงไปเรื่อยๆ และซีดไปในที่สุด ลิซ่า เซพเพิร์ด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสีที่ทํารายการชื่อ 10 years younger แนะนําตามทฤษฏีโมเลกุนสีจะติดผมได้นานขึ้นถ้าคุณไม่สระบ่อย แต่ถ้าคุณทนความคิดที่ว่าโคนผมเหนียวเหนอะหนะไม่ได้ก็ต้องใช้ผลิตภัฑ์ที่ปกป้องสีผมในการสระทุกครั้ง

2.ผมสวยมีวอลลุ่ม หัดใช้โรลม้วนผมจะเป็นแบบไฟฟ้าหรือแบบธรรมดาก็ได้ เพื่อให้ผมมีวอลลุ่มและมีเนื้อผมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกระหม่อมที่จะทําให้คุณดูหรูขึ้น ซารอน พีค ช่างผมดังแนะนํา ไดร์ผมให้ทั่วศีรษะโดยใช้แปรงกลมเพื่อให้ผมเรียบ จากนั้นฉีดโลชั่นจัดทรงก่อนม้วนผมก่อนม้วนผมช่วงบนม้วนสัก 4-5 โรลแล้วปล่อยทิ้งไว้นานสุดเท่าที่จะทําได้ พอแกะออกแล้วหวีย้อนโคนเพื่อความพองสวยของผม

3.เปล่งประกายเงางาม สเปรย์เพิ่มความเงางามจําเป็นและดีมาก เพราะเนื้อเบาบางทําให้ผมไม่ดูหมองและหนัก หลุย วูด จาศูนย์ให้คําปรึกษาเรื่องเส้นผมที่อังกฤษแนะนํา ถ้าอยากให้ผมดูเป็นประกายอย่างดารา เธอแนะนํา soda sparkle ของลอรีอัล โปรเฟชั่นแนล ทันทีที่แต่งผมเสร็จฉีดบางๆ รับลองว่าผมสวยเด้งล้อแสงไฟ

4.แก้ปัญหาผมแตกปลาย ถ้าผมเหนื่อย ผมจะแสดงออกด้วยการแตกปลายถ้าคุณไม่มีเวลาเข้าร้านไปให้ช่างเล็มให้ ก็หมักทรีตเม้นท์แบบเข้มข้นที่บ้านแล้วห่อผ้าขนหนูอุ่นๆสักหนึ่งชั่วโมง ความร้อนจะช่วยให้เนื้อครีมแทรกซึมเข้าไปในเส้นผมลึกกว่าเดิม ซึ่งจะทําให้เห็นผลดีกว่าเดิม ซึ่งทําให้เห็นผลดีกว่าการใช้ครีมนวดผมแบบธรรมดา

5.กินยาช่วย เดี๋ยวนี้เมืองนอกเขามียาที่กินแล้วช่วยให้ผมหนาและมีนําหนักและเนื้อผมมากขึ้นกันแล้ว นั่นคือ redensifying supplement, densitive ของเคราสตาส แต่ถ้าไม่กินยาช่วยก็สามารถบํารุงเส้นผมให้สุขภาพดีด้วยการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ เน้นโปรตีนและสังกะสี ผมก็จะเข็งแรงสุขภาพดี

6.น้อยดีกว่ามาก อย่าใส่ผลิตภัณฑ์แต่งผมมากเกินควรเวลาไปตามร้านคุณสังเกตหรือไม่ว่าช่างเขาจะใส่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพียงนิดเดียว เพราะเขารู้ว่าใส่น้อยจะทําให้ผมดูเป็นธรรมชาติ ดังนั้น ใส่แต่น้อยๆ แล้วค่อยใส่เพิ่มขึ้นเมื่อต้องการ

7.ช่วยให้สีผมสวยนานขึ้น ความร้อนในการจัดทรง และสภาพแวดล้อม ล้วนช่วยเสริมส่งให้สีผมซีดเร็ว ดังนั้น เราต้องหมั่นดูแลเส้นผมยามอยู่บ้านด้วยการใช้แซมพูถนอมสีผมเป็นกิจวัตรและใช้ครีมนวดผมที่ป้องกันรังสียูวีด้วย

8.ความชุ่มชื้นคือสิ่งสําคัญ อย่าเข้าใจผิดว่าคุณไม่สามารถใช้สารเพิ่มความชุ่มชื่นให้เส้นผมได้ถ้าคุณเป็นคนผมเส้นเล็ก คนส่วนมากเชื่อว่าถ้าเป้นคนผมเส้นเล็กไม่ควรใช้ครีมนวดและผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผม อแมนด้า ฮาร์วีย์ จาก พอลมิทเชลล์ บอก ซึ่งไม่จริงเลย ผมเส้นเล็กก็มีสิทธิ์แห้งได้ โดยเฉพาะถ้าโดนสารเคมีหรือถูกใช้ความร้อนนานๆ แนะนําว่าไม่ควรลาขาดผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผมเสียทีเดียว แต่ให้นวดคอนดิชันเนอร์เฉพาะที่ปลายผม

9.สวยยามหลับ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งเหยิง ผู้หญิงก็เลยไม่มีเวลาดูแลเส้นผมน้อยลง ลี สตัฟฟอร์ด ช่างผมระดับกูรูบอก นี่คือเหตุผลที่ว่าทําไมทรีตเม้นท์แบบใส่ตอนนอนถึงได้เป้นที่นิยมกัน เพราะเป็นวิธีดูแลเส้นผมที่ดีที่สุดที่คุณจะมอบให้แก่เส้นผมได้ ทรีตเม้นท์อุดมไปด้วยโปรตีนที่เป็นสารอาหารแก่เส้นผมและพื้นฟูเส้นผมที่ถูกทําลายช่วงกลางคืนตอนที่เราหลับ